ตอนที่ 2 การทดสอบคุณภาพของเครื่องมือการวิจัย

การทดสอบคุณภาพของเครื่องมือการวิจัย
ผู้วิจัยได้ทำการทดสอบหาค่าความเที่ยงตรง (Validity) และการทดสอบหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถาม เพื่อนำมาปรับปรุงแบบสอบถามให้มีความชัดเจนและเหมาะสม ดังนี้
                   การทดสอบหาค่าความเที่ยงตรง (Validity)
                      1. ผู้วิจัยได้ทำการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือการวิจัย ด้วยการวิเคราะห์องค์ประกอบ เชิงยืนยัน (Confirmatory Factor Analysis: CFA) เพื่อต้องการพิสูจน์ ตรวจสอบความเหมาะสมและถูกต้องขององค์ประกอบหลัก   3 องค์ประกอบคือ
                      2. ผู้วิจัยได้ทำการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือการวิจัย ด้วยการนำแบบสอบถามที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นไป ให้ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ทำการตรวจสอบคุณภาพด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) จำนวน 5 ท่าน เพื่อหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง ข้อคำถามตรงกับคุณลักษณะ ตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ต้องการวัด (ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์และอัจฉรา ชำนิประศาสน์, 2545) ดังนี้
สูตร    IOC               =            
            เมื่อ
           IOC     =     ดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence)
           R        =     คะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ คำถามแต่ละข้อ
           N        =     จำนวนผู้เชี่ยวชาญ
                   โดยมีการกำหนดคะแนนที่ผู้เชี่ยวชาญให้ดังนี้
            +1     หมายถึง    คำถามสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัยหรือนิยามปฏิบัติการ
            -1      หมายถึง    คำถามไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัยหรือนิยามปฏิบัติการ
            0        หมายถึง  ไม่แน่ใจว่าคำถามสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัยหรือนิยามปฏิบัติการ
                   เกณฑ์การแปลความหมายมีดังนี้
            ค่า   IOC .50  หมายความว่า  คำถามตรงวัตถุประสงค์ของการวิจัย
          ค่า   IOC < .50   หมายความว่า  คำถามไม่ตรงวัตถุประสงค์ของการวิจัย

                   สำหรับการประเมินความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ต้องการวัด ผู้วิจัยได้รับความอนุเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน ดังนี้  (สุทธิกันต์ 2560)

การทดสอบหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability)
ผู้วิจัยทำการวัดความเชื่อมั่นหรือความสอดคล้องภายในด้วยค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient) ด้วยการนำแบบสอบถามที่ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย โดยคัดเลือกข้อคำถามที่มีค่า α ตั้งแต่ 0.70 ขึ้นไป ถือว่าข้อคำถามมีความเชื่อมั่น (ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์และอัจฉรา ชำนิประศาสน์, 2545)
สูตร   α  = 
เมื่อ
     α     =   ค่าความเชื่อมั่น
      n     =    จำนวนข้อ
       =   ความแปรปรวนของคะแนนแต่ละข้อ
       =   ความแปรปรวนของคะแนนรวม

                   นอกจากนี้ ผู้วิจัยจะทำการตรวจสอบคุณภาพของแบบสอบถาม ด้วยการวิเคราะห์                       ค่าความเที่ยงของตัวแปรสังเกตได้ (Internal Consistency Reliability) โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient) กับแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย  เพื่อที่จะได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่1.เริ่มทบทวน